การเลือกซื้อฟิล์มยืด ให้เหมาะกับประเภทของการนำไปใช้ ถ้าพูดถึงฟิล์มยืดก็ต้องนึกถึงพลาสติกที่มีความหนาและยืดหยุ่นสูง สามารถใช้งานได้ย่างหลากหลาย ผลิตมาจากเม็ดพลาสติกคุณภาพหลากหลายชนิด แล้วกลายมาเป็นพลาสติกใสที่เพียงแค่พันทับกันก็สามารถที่จะติดได้แบบไม่ต้องใช้กาวหรือความร้อนใดๆ แต่ที่นิยมใช้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นการใช้งานภายในภาคอุตสาหกรรม โกดัง และโรงงานต่างๆ เพราะด้วยความยืดหยุ่นและเมื่อพันทับการหลายรอบแล้วสามารถลดแรงสียดทานได้ดี จึงถูกนำมาพันรอบกล่องสินค้าให้กลายเป็นหนึ่งเดียวบนพาเลท เมื่อต้องการยกเก็บหรือยกขึ้นรถขนส่งสินค้าก็สามารถที่จะทำได้ง่ายดายและสะดวกมากยิ่งขึ้น หรือจะทำเป็นแพ็คเกจเพื่อห่อหุ่มตัวสินค้าก่อนส่งถึงมือลูกค้า นอกจากจะช่วยลดพื้นที่ในการจัดวางและช่วยในเรื่องของการลดต้นทุนในค่าขนส่งแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการเพิ่มความปลอดภัยได้ดีด้วยเช่นเดียวกัน
ถ้าถามถึงประโยชน์ของฟิล์มยืดก็อาจจะบอกได้ว่าหลากหลายมาก เพราะสามารถใช้ได้ทั้งภายในครัวเรือนไปจนถึงภายในโรงงานขนาดใหญ่ ถ้าใช้งานภายในครัวเรือนจะเป็นเรื่องของการถนอมอาหาร, ลดปัญหาเน่าเสียง่ายในของสด, แพ็คของภายในครัวให้เป็นระเบียบ และช่วยปิดทับอาหารไม่ให้เจือปนกับฝุ่นและเชื้อโรค รวมไปถึงการนำไปใช้ในธุรกิจสินค้าเกษตรเช่นใช้ห่อหุ้มสินค้าอย่างเช่นผลไม้สด ผักสด ให้ดูสด ใหม่ สะอาด และช่วยยืดอายุของ shelf life ให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย ส่วนภายในภาคอุตสาหกรรมหรือภายในโรงงานจะเหมาะสมกับงานด้านการรักษาความปลอดภัยของสินค้า, การรวมสินค้าเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้วทำให้สะดวกต่อการขนส่ง, ช่วยให้สินค้าจัดเก็บได้ง่ายขึ้น และช่วยกันกระแทกเมื่อกล่องเกิดล้มลงมา ไม่ว่าจะเป็นกล่องสินค้าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็สามารถเก็บได้อย่างเป็นระเบียบ เมื่อนำมาพันรอบกันหลายๆ รอบ ตัวฟิล์มจะติดกันเองแบบอัตโนมัติ เพราะมีความเหนียวพอสมควร แต่เมื่อสินค้าถึงมือลูกค้าแล้วต้องการแกะออกเพื่อตรวจสอบก็ทำได้อย่างง่ายดาย มีข้อดีที่ไม่ต้องกังวลเรื่องคราบเหนียวเพราะไม่มีกาวและไม่ใช่พลาสติกที่ใช้ความร้อนในการทำให้ติดกัน
ฟิล์มยืดมีความสามารถในการยืดออกได้โดยไม่ขาด 100-200% สามารถลดแรงเสียดทานได้ดี ทนต่อสภาวะอากาศทั้งร้อนและหนาวได้อย่างไม่มีปัญหา เก็บรักษาของต่างๆ ไว้ภายในฟิล์มได้ในระยะเวลานาน โดยที่ความชื้นและอากาศสามารถผ่านเข้า-ออกเนื้อฟิล์มได้แต่จะเป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมนำคุณสมบัตินี้มาใช้งานร่วมกับการขนส่งและการดูแลสินค้า ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้พลาสติกแบบเกรดพิเศษอย่าง LLDPE หรือ Linear Low Density Polythylene ที่ถูกนำมาผลิตฟิล์มยืดได้หลากหลายขนาด เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เลือกนำไปใช้ตามความเหมาะสม ส่วนวิธีการใช้งานฟิล์มภายในโรงงานก็มีทั้งแบบเป็นม้วนพันมือและแบบใช้เป็นเครื่องม้วนอัตโนมัติแบบ STRETCH WRAPPING MACHINE ที่ช่วยลดเวลาและลดแรงงานคนได้ ทำให้การทำงานเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น แต่ราคาของเครื่องก็ย่อมสูงกว่าแบบใช้มือม้วนอย่างแน่นอน
การใช้งานฟิล์มยืดอย่างถูกต้องคือการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถ้าต้องการใช้กับอาหารที่ต้องมีความปลอดภัยสูงและมีความยืดหยุ่นดีควรเลือกใช้พลาสติกแบบ PVC ที่ให้ความเหนียวมากพอที่จะนำมาติดกันและมีความปลอดภัย สารเคมีไม่ลงไปเจือปนอยู่ในอาหาร แต่ถ้าต้องการใช้งานในด้านการขนส่งสินค้าก็ควรใช้เป็นพลาสติกแบบ PE ที่มีความเหนียวมากกว่าแบบ PVC เป็น 2-3 เท่า เพราะต้องรัดตัวกล่องหรือตัวสินค้าให้รวมกันได้ และต้องรับแรงกระแทกได้ดีเพื่อไม่ให้สินค้าเกิดความเสียหายในการขนส่ง นอกจากนี้ฟิล์มยืดยังสามารถที่จะใช้ในงานย้ายบ้าน เช่น การพันของที่แตกง่าย, พันตามมุมและส่วนต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์เพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อโดนกระแทก และรวบกล่องเก็บของต่างๆ ให้รวมกันเพื่อสะดวกต่อการยกขึ้นและลงจากรถ ด้วยคุณสมบัติตามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้สามารถตอบได้อย่างชัดเจนว่าฟิล์มยืดมีความเหมาะสมกับงานที่หลากหลายและสามารถใช้ประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเราตลอดไปจนถึงช่วยรักษาต้นทุนในภาคธุรกิจให้กับเราได้อีกด้วย
Leave a reply